สีของเหลวภายในรถยนต์บอกอะไร

ตรวจเช็กของเหลวในรถยนต์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การตรวจเช็กสภาพรถตามรอบระยะที่กำหนดถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ใช้รถทุกคน แต่สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอีกอย่างหนึ่งคือ “การตรวจเช็กของเหลวในรถยนต์” เพราะของเหลวแต่ละประเภทมีหน้าที่ที่แตกต่างกัน และหากขาดการดูแลอาจทำให้ระบบการทำงานของรถยนต์มีปัญหาและลดประสิทธิภาพลงอย่างมาก

ของเหลวในรถยนต์มีอะไรบ้าง? ต้องเช็กอะไรบ้าง?

ของเหลวภายในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเบรก, น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์, น้ำหล่อเย็น (Coolant) หรือ น้ำฉีดกระจก ล้วนมีหน้าที่เฉพาะในการหล่อลื่นและระบายความร้อนเพื่อให้รถยนต์ทำงานได้ราบรื่นที่สุด

สิ่งที่ควรทำเป็นประจำ:

  • ตรวจเช็ก ระดับของเหลว ให้อยู่ในระดับที่คู่มือรถแนะนำ
  • หมั่นตรวจสอบ สีของของเหลว เพื่อดูว่ามีการเสื่อมหรือสกปรกหรือไม่
  • ตรวจเช็ก คราบรั่วซึม ใต้ท้องรถหรือบริเวณห้องเครื่อง
  • ตรวจเช็กและเปลี่ยน ของเหลวตามรอบระยะทางหรือเวลา ที่กำหนด

สีของเหลวภายในรถยนต์

ประเภทของเหลวอ้างอิงจาก www.cockpit.co.th

หากละเลยของเหลวเหล่านี้ อาจเกิดผลเสียอะไรได้บ้าง?

  • เครื่องยนต์เสื่อมสภาพไวขึ้น
  • ระบบเบรกมีปัญหา เสี่ยงต่ออุบัติเหตุ
  • เครื่องยนต์ร้อนจัดจนอาจดับกลางทาง
  • ระบบเกียร์ฝืด เปลี่ยนเกียร์ไม่ลื่นไหล
  • พวงมาลัยหมุนยาก ทำให้ควบคุมรถลำบาก

เคล็ดลับดูแลของเหลวในรถยนต์

  • ใช้ของเหลวแท้จาก ศูนย์บริการหรือผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ
  • เปลี่ยนของเหลวตาม ระยะทาง หรือ ระยะเวลา ที่แนะนำในคู่มือรถ
  • ไม่ผสมของเหลวต่างยี่ห้อหรือต่างประเภทกันเอง
  • หากพบการรั่วซึม ควรรีบเข้าศูนย์ตรวจเช็กทันที

อย่าลืม! น้ำมันเครื่อง คือของเหลวที่สำคัญที่สุด

น้ำมันเครื่อง เป็นหัวใจของระบบหล่อลื่นในเครื่องยนต์ ควรเปลี่ยนเมื่อถึงระยะทาง 5,000 – 10,000 กิโลเมตร (ขึ้นอยู่กับชนิด: ธรรมดา / กึ่งสังเคราะห์ / สังเคราะห์แท้ 100%) และควรเลือกใช้ น้ำมันเครื่องคุณภาพดี ที่เหมาะสมกับเครื่องยนต์ของรถคุณ

สรุป: ตรวจเช็กของเหลวในรถเป็นประจำ = ลดปัญหาใหญ่ในอนาคต

ของเหลวทุกชนิดในรถยนต์มีความสำคัญ หากคุณดูแลให้ถูกวิธี ตรวจเช็กเป็นประจำ รถยนต์ของคุณจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม และยังเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย

หน้าแรกช่างซ่อมรถยนต์