เช็คความพร้อม คุณพร้อมใช้รถยนต์ไฟฟ้า EV แล้วหรือยัง

10 ข้อควรรู้ ก่อนออกรถ EV

1. ประเภทรถยนต์ไฟฟ้า

การรู้จัก ประเภทของรถยนต์ไฟฟ้า เป็นสิ่งสำคัญก่อนตัดสินใจออกรถ EV เนื่องจากแต่ละประเภทมีการใช้พลังงานและการใช้งานแตกต่างกัน ปัจจุบันในไทยมี รถยนต์ไฟฟ้า EV 4 ประเภทหลัก ได้แก่

  • รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle : HEV): ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงสลับกับพลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ประหยัดเชื้อเพลิงกว่าการใช้น้ำมันเพียงอย่างเดียว
  • รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV): ใช้น้ำมันและพลังงานไฟฟ้าเหมือน HEV แต่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟจากภายนอกได้
  • รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle : BEV): ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ 100% ทำให้สามารถวิ่งได้ไกลต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
  • รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle : FCEV): ใช้พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากเซลล์เชื้อเพลิง โดยใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจนจากการเติมจากภายนอก

2. การเสียภาษีของรถ EV

รถยนต์ไฟฟ้า EV ที่จดทะเบียนระหว่างวันที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ถึง 10 พฤศจิกายน 2568 จะได้รับ ลดภาษี 80% เช่น รถเก๋งที่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่มีน้ำหนัก 1,800 กิโลกรัม โดยปกติภาษีจะอยู่ที่ 1,600 บาท แต่เมื่อได้รับการลดจะเหลือ 320 บาทเป็นเวลา 1 ปี

3. รถยนต์ไฟฟ้า EV ราคาแพงไหม

ปัจจุบันทางรัฐบาลมี นโยบายเงินอุดหนุนสำหรับรถ EV โดยถ้ารถใช้แบตเตอรี่ตั้งแต่ 10 กิโลวัตต์ชั่วโมง แต่ไม่เกิน 30 กิโลวัตต์ชั่วโมงจะได้รับเงินอุดหนุน 70,000 บาทต่อคัน และถ้าใช้แบตเตอรี่ขนาด 30 กิโลวัตต์ชั่วโมงขึ้นไป จะได้รับเงินอุดหนุน 150,000 บาทต่อคัน

4. รูปแบบการชาร์จ

การใช้ รถยนต์ไฟฟ้า EV ต้องรู้จัก รูปแบบการชาร์จ ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา ซึ่งมี 3 รูปแบบ คือ

  • การชาร์จแบบเร็ว (QUICK CHARGER): ใช้ไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charging) โดยใช้ตู้ EV Charger ตามสถานีชาร์จ
  • การชาร์จแบบธรรมดาแบบ DOUBLE SPEED CHARGE: ใช้ไฟกระแสสลับ (AC Charging) เห็นได้ทั่วไปที่ตู้ชาร์จติดผนังในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรม
  • การชาร์จแบบ NORMAL CHARGE: ชาร์จจากเต้ารับในบ้าน ต้องมีระบบไฟฟ้าที่รองรับการใช้งาน รถไฟฟ้า

5. การขับรถ EV ลุยน้ำ

ควรหลีกเลี่ยงการขับรถ EV ลุยน้ำที่สูงกว่าขอบประตู เพราะอาจทำให้ระบบต่าง ๆ เสียหาย หากขับผ่านน้ำท่วมควรตรวจเช็กเบรกและนำรถเข้า ศูนย์ตรวจเช็ก

6. ชาร์จไฟกี่นาทีถึงจะเต็ม

การชาร์จไฟรูปแบบต่าง ๆ มีเวลาชาร์จไม่เท่ากัน เช่น การชาร์จแบบธรรมดาใช้เวลา 12-16 ชม., ชาร์จรวดเร็วจากตู้ EV Charger 4–7 ชม., และ Quick Charge จะใช้ 40-60 นาที ควรวางแผนการเดินทางดี ๆ เพื่อไม่ให้การเดินทางสะดุด

7. รถ EV วิ่งได้ไกลแค่ไหน

รถยนต์ไฟฟ้า EV วิ่งได้ไกลขึ้นอยู่กับขนาดแบตเตอรี่ เช่น ขนาด 60-90 kW วิ่งได้ประมาณ 338-473 กม. แต่การเดินทางไกลควรวางแผนที่ชัดเจนเกี่ยวกับเส้นทางและสถานีชาร์จ

8. รถ EV ประหยัดได้อย่างไร

ค่าพลังงานของรถ EV จะแตกต่างตามแหล่งที่ชาร์จ เช่น ชาร์จที่บ้านค่าไฟประมาณ 2.63 บาท/หน่วย ขณะที่ DC Fast charge ที่สถานีสาธารณะอาจอยู่ที่ 7.5 บาท/หน่วย

9. การบำรุงรักษาแพงไหม

รถไฟฟ้า EV มีชิ้นส่วนที่น้อย ส่งผลให้ค่าบำรุงรักษาต่ำ เช่น ไม่มีค่าเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง แต่อะไหล่ทั่วไปจะเหมือนกับรถยนต์ปกติตามแบรนด์

10. ความปลอดภัยของรถ EV

รถยนต์ไฟฟ้า EV ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยด้วยอุปกรณ์เสริมป้องกันและดีไซน์ที่ช่วยกระจายแรงกระแทก เช่น Crumple Zone ที่ช่วยป้องกันผู้โดยสาร

รถยนต์ไฟฟ้า EV เหมาะสมหรือไม่ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต เช่น ถ้าอยู่คอนโดที่ใช้ รถสาธารณะ เป็นหลัก อาจไม่จำเป็น แต่ถ้าอยู่บ้านและเดินทางไกล การเลือก EV อาจเป็นตัวเลือกที่ดี ควรพิจารณาให้ดีว่ารถเข้ากับวิถีชีวิตหรือไม่

บริการซ่อมรถนอกสถานที่24ชั่วโมง

ติดต่อโทร : 094-8619595 , 061-4152978

Line ID :@24carfix

วิธีการใช้บริการ 24Carfix

1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน 24Carfix ได้ทั้งในระบบ iOS และ Android

2. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ: ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบเพื่อใช้บริการ

3. เรียกช่างซ่อมรถ: เลือกบริการื่ต้องการและระบุปัญหาที่พบเจอ จากนั้นกดเรียกช่าง

4. รอช่างมาถึงที่: ช่างจะมาถึงที่ภายในเวลาอันรวดเร็ว และดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ท่านทันที

ติดตามอัปเดตข่าวสาร 24 Carfix ซ่อมรถถึงที่ 24 ชม.

#รถยนต์ไฟฟ้า#รถไฟฟ้า#ประโยชน์ของรถยนต์ไฟฟ้า#การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า#ราคารถยนต์ไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่#เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า#รถยนต์ไฟฟ้ากับสิ่งแวดล้อม#รีวิวรถยนต์ไฟฟ้า