ปัจจุบันทั่วโลกให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นด้วยการลดใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ ส่วนใหญ่มักมาจากการใช้รถยนต์เครื่องยนต์แบบสันดาป รถปลั๊กอินไฮบริดคืออีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้รถประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็แอบมีความกังวลที่จะเลือกใช้รถไฟฟ้า EV ซึ่งรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดใช้น้ำมันน้อยกว่ารถทั่วไปถึง 30-60% จึงช่วยประหยัดน้ำมันได้เป็นอย่างดี และไม่ส่งผลต่อสมรรถนะในการขับขี่ด้วย มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด ข้อดี ข้อเสียที่น่าสนใจของรถประเภทนี้กัน
หลายคนอาจคุ้นกับคำว่ารถ PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) หรือรถปลั๊กอินไฮบริด คือ รถยนต์ไฮบริด EV ประเภทหนึ่งที่ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์สันดาปแบบเดิมกับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในการขับเคลื่อนรถยนต์ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดปลั๊กอินจึงสามารถชาร์จไฟจากแหล่งจ่ายไฟภายนอกได้ ด้วยการเสียบปลั๊กรถยนต์เข้ากับเต้ารับไฟฟ้าที่บ้านหรือสถานีชาร์จ และยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งมีความแตกต่างจากรถยนต์ไฮบริดทั่วไป (Hybrid electric vehicle: HEV) รถไฮบริดกับปลั๊กอินไฮบริดจึงมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับการทำงานของรถ PHEV ผู้ขับขี่สามารถเลือกวิธีการทำงานได้เลยว่า จะใช้เครื่องยนต์ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า (ระบบไฮบริด) หรือจะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนอย่างเดียวก็ได้เช่นกัน ซึ่งจะมีหลักการทำงานเหมือนกับรถยนต์ไฟฟ้าเลย จึงมีความยืดหยุ่นและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังลดการใช้เชื้อเพลิงโดยรวมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
รถ PHEV ปล่อยก๊าซเรือนกระจกน้อยลงเมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไป โดยเฉพาะเมื่อทำงานในโหมดไฟฟ้าทั้งหมดที่จะไม่มีการปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียเลย จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนที่กำลังมองหารถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หนึ่งในข้อได้เปรียบสำคัญของรถ PHEV คือ ความยืดหยุ่นและความคล่องตัวในการเลือกใช้พลังงานขับเคลื่อนรถยนต์ ผู้ขับขี่สามารถสลับระหว่างโหมดไฟฟ้าหรือระบบไฮบริดได้อย่างที่ต้องการ จึงเหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้นและการเดินทางระยะไกล หมดกังวลเรื่องระยะขับขี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
เมื่อเหยียบเบรกหรือยกเท้าออกจากคันเร่ง มอเตอร์ไฟฟ้าจะเข้าสู่โหมดเจนเนอเรเตอร์ ซึ่งจะแปลงพลังงานจลน์ของรถที่กำลังเคลื่อนที่เป็นพลังงานไฟฟ้า จากนั้นกระแสไฟฟ้านี้จะกลับเข้าไปในแบตเตอรี่ของรถยนต์เพื่อเก็บเอาไว้ใช้ จึงช่วยขยายระยะการขับขี่ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รถ PHEV ประหยัดต้นทุนด้านน้ำมันเชื้อเพลิงได้มากกว่ารถเครื่องยนต์สันดาป โดยเฉพาะเมื่อเลือกใช้งานด้วยโหมดไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้รถใช้ถนนทุกวันหรือการเดินทางระยะสั้น อีกทั้งรถ PHEV มีการบำรุงรักษาโดยรวมที่น้อยกว่า จึงช่วยประหยัดต้นทุนในส่วนนี้ได้อีกด้วย
ถึงแม้ว่ารถ PHEV จะปล่อยมลพิษหรือก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่ารถยนต์ทั่วไป แต่ก็ยังไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ เพราะในบางช่วงเวลาอาจมีความจำเป็นต้องใช้โหมดน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อขับเคลื่อนรถยนต์ด้วยนั่นเอง
เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ระยะการขับขี่ของรถ PHEV จะน้อยกว่าด้วยข้อจำกัดความจุของแบตเตอรี่ หากต้องการใช้งานโหมดไฟฟ้ากับการเดินทางไกล รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบหรือรถ EV อาจตอบโจทย์การใช้งานมากกว่า
รถ PHEV มักมีราคาเริ่มต้นสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป เนื่องจากต้นทุนของส่วนประกอบรถไฮบริดและแบตเตอรี่ หากต้องการขายต่อ มูลค่าการขายต่ออาจลดลงอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันตลาดรถยนต์มีการพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่และนวัตกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน 24Carfix ได้ทั้งในระบบ iOS และ Android
2. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ: ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบเพื่อใช้บริการ
3. เรียกช่างซ่อมรถ: เลือกบริการื่ต้องการและระบุปัญหาที่พบเจอ จากนั้นกดเรียกช่าง
4. รอช่างมาถึงที่: ช่างจะมาถึงที่ภายในเวลาอันรวดเร็ว และดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ท่านทันที
ติดตามอัปเดตข่าวสาร 24 Carfix ซ่อมรถถึงที่ 24 ชม.
#รถยนต์ไฟฟ้า#รถไฟฟ้า#ประโยชน์ของรถยนต์ไฟฟ้า#การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า#ราคารถยนต์ไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่#เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า#รถยนต์ไฟฟ้ากับสิ่งแวดล้อม#รีวิวรถยนต์ไฟฟ้า