รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง คือ รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม เช่น น้ำมัน แก๊สธรรมชาติ เป็นรถยนต์ที่คุ้นเคยกันดี พบเจอได้ง่ายในชีวิตประจำวัน มีข้อดีและข้อจำกัด ดังนี้
อ้างอิงจาก www.roojai.com
รถพลังงานเชื้อเพลิงสามารถใช้น้ำมันเป็นแหล่งพลังงานในการขับเคลื่อนรถยนต์ สามารถเติมน้ำมันได้ที่สถานีบริการน้ำมันทั่วไป ซึ่งมีกระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
เนื่องจากรถพลังงานเชื้อเพลิงมีการผลิตและวางจำหน่ายมานาน อะไหล่เครื่องยนต์ต่าง ๆ จึงมีสำรองในศูนย์ซ่อมรถ เมื่อรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงมีเหตุจำเป็นต้องเปลี่ยนอะไหล่จึงมีอะไหล่พร้อมให้บริการ สะดวกกว่า
รถพลังงานเชื้อเพลิงส่วนมากใช้น้ำมันในการขับเคลื่อน ซึ่งราคาน้ำมันยังคงมีความผันผวนสูงจากผลกระทบทางเศรษฐกิจ คนที่ใช้รถพลังงานเชื้อเพลิงจึงต้องแบกความเสี่ยงเรื่องน้ำมันแพง
รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงจะมีการเผาไหม้เชื้อเพลิงในกระบวนการทำงานของรถ ส่งผลให้เกิดการปล่อยมลพิษออกสู่อากาศ เป็นหนึ่งในสาเหตุของก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มมากขึ้นในปัจจุบัน
รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงจะมีเสียงที่ดังกว่า และการขับจะไม่นุ่มนวลเท่ารถยนต์ไฟฟ้า แต่รถพลังงานเชื้อเพลิงก็สามารถเพิ่มความนุ่มในการขับได้ด้วยยางรถยนต์นุ่มเงียบ ควรเลือกยากที่ดูดซับแรงกระแทกได้ดี ขับขี่สบาย เสียงรบกวนน้อย
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า คือ รถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า โดยพลังงานจะถูกเก็บเอาไว้ในแบตเตอรี่ หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าอื่น ๆ ที่สามารถส่งพลังงานไฟฟ้าไปยังเครื่องยนต์ได้
รถยนต์พลังงานไฟฟ้าใช้มอเตอร์ในการขับเคลื่อน ซึ่งไม่มีเสียงดังจากการเผาไหม้ของพลังงานเชื้อเพลิง ทำให้มีเสียงเบากว่าขณะขับขี่
จุดเด่นของรถยนต์ไฟฟ้าคือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รถยนต์ไฟฟ้าจะใช้พลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานบริสุทธิ์อื่น ๆ มาเก็บไว้ในแบตเตอรี่ เมื่อจะใช้งานแบตเตอรี่จะแปลงพลังงานเหล่านั้นไปใช้ในการขับเคลื่อนรถ ซึ่งการใช้พลังงานไฟฟ้านี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่ชั้นบรรยากาศ ลดการเกิดก๊าซเรือนกระจกได้
รถพลังงานไฟฟ้าใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน เมื่อคำนวณค่าไฟฟ้าที่ใช้ในการวิ่งระยะทางเท่ากันกับรถพลังงานเชื้อเพลิง รถยนต์ไฟฟ้าจะประหยัดค่าน้ำมันมากกว่ารถพลังงานเชื้อเพลิง
ระยะทางในการขับขี่ของรถยนต์ไฟฟ้าจะขึ้นอยู่กับความจุแบตเตอรี่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้าที่มีความจุแบตเตอรี่ 60 kWh จะวิ่งได้ประมาณ 350 กิโลเมตร ถ้าซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่ความจุมากกว่านี้ก็จะวิ่งได้ไกลกว่าเดิม แต่จะเสียเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มมากขึ้นเช่นกัน
เนื่องจากรถยนต์ไฟฟ้ายังคงมีการผลิตและจัดจำหน่ายในประเทศน้อย เมื่อเทียบกับอัตราการผลิตของรถพลังงานเชื้อเพลิง ราคาของรถพลังงานไฟฟ้าจึงยังคงสูงอยู่
รถยนต์ไฟฟ้าต้องมีการชาร์จแบตเตอรี่เพื่อใช้ในการขับเคลื่อน แต่สถานีชาร์จยังคงไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ และหากต้องการชาร์จเองที่บ้านก็ต้องซื้อหัวชาร์จรถยนต์ EV โดยเฉพาะ ซึ่งอาจจะไม่สะดวกสำหรับบางคน
รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงมักจะมีอะไหล่สำรองอยู่ในศูนย์ซ่อม ในขณะที่อะไหล่ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีการนำเข้ามาน้อย และแต่ละชิ้นราคาสูง หากมีการเปลี่ยนอะไหล่ เจ้าของรถจะต้องจ่ายมากกว่าการซ่อมรถพลังงานเชื้อเพลิง
รถพลังงานเชื้อเพลิง:
รถพลังงานเชื้อเพลิงจะใช้เชื้อเพลิง เช่น น้ำมัน แก๊สธรรมชาติในการขับเคลื่อน ซึ่งมีสถานีบริการอยู่ทั่วไป พบเห็นได้ง่าย ใช้เวลาในการเติมพลังงานเชื้อเพลิงไม่นาน
รถพลังงานไฟฟ้า:
รถยนต์ไฟฟ้าจะใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า แต่สถานีบริการค่อนข้างน้อย ใช้เวลานานในการชาร์จแบตเตอรี่ หากไม่อยากรอคิวสถานีบริการชาร์จรถ EV สามารถเลือกชาร์จแบตที่บ้านได้ ซึ่งต้องกะเวลาให้แบตเต็ม เพื่อให้รถวิ่งได้ตามระยะที่กำหนด
รถพลังงานเชื้อเพลิง:
รถยนต์พลังงานเชื้อเพลิงมีอะไหล่รถยนต์หลายชิ้น เวลาเกิดความเสียหายจึงสามารถเปลี่ยนอะไหล่เพียงบางชิ้นได้ มีปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่และไฟฟ้าน้อยกว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงไม่มีปัญหาจากระบบอัจฉริยะที่มักจะติดตั้งมาพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้า
รถพลังงานไฟฟ้า:
รถพลังงานไฟฟ้าหรือรถ EV เป็นรถที่มีเครื่องยนต์น้อย มีระบบความปลอดภัยทั่วไปเหมือนรถยนต์พลังงานเชื้อเพลิง เช่น เข็มขัดนิรภัย ถุงลมนิรภัย แต่มีข้อดีที่การไม่มีน้ำมันรถช่วยให้การขับรถลุยน้ำท่วมทำได้ดีกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำเข้ามาในตัวเครื่อง หรือผสมกับถังน้ำมัน รวมถึงแบตเตอรี่ของรถพลังงานไฟฟ้าออกแบบให้กันน้ำระดับหนึ่งอยู่แล้ว
รถพลังงานเชื้อเพลิง:
การซื้อรถพลังงานเชื้อเพลิงจะมีราคาถูกกว่า เบี้ยประกันภัยรถยนต์ก็จ่ายน้อยกว่า รวมถึงค่าซ่อมบำรุง
ต่าง ๆ ด้วย ยกเว้นค่าเชื้อเพลิงที่ราคามีความผันผวนสูง และมีแนวโน้มจะขยับราคาขึ้นอีก
รถพลังงานไฟฟ้า:
รถพลังงานไฟฟ้าซื้อในราคาที่สูงกว่า เพราะการผลิตและจัดจำหน่ายยังคงน้อย ถึงจะมีเงินอุดหนุนจากภาครัฐก็ยังคงซื้อและผ่อนในราคาที่สูงกว่ารถพลังงานเชื้อเพลิง และการทำประกันภัยรถยนต์ต้องจ่ายเบี้ยประกันสูงกว่า ค่าซ่อมบำรุงแพงกว่า แต่ค่าพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อนถูกกว่ารถพลังงงานเชื้อเพลิง
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน 24Carfix ได้ทั้งในระบบ iOS และ Android
2. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ: ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบเพื่อใช้บริการ
3. เรียกช่างซ่อมรถ: เลือกบริการื่ต้องการและระบุปัญหาที่พบเจอ จากนั้นกดเรียกช่าง
4. รอช่างมาถึงที่: ช่างจะมาถึงที่ภายในเวลาอันรวดเร็ว และดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ท่านทันที
ติดตามอัปเดตข่าวสาร 24 Carfix ซ่อมรถถึงที่ 24 ชม.
#รถยนต์ไฟฟ้า#รถไฟฟ้า#ประโยชน์ของรถยนต์ไฟฟ้า#การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า#ราคารถยนต์ไฟฟ้า #รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่#เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า#รถยนต์ไฟฟ้ากับสิ่งแวดล้อม#รีวิวรถยนต์ไฟฟ้า