ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่า Rain Sensor คือเทคโนโลยีที่ติดตั้งในรถยนต์รุ่นใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่ โดยระบบนี้จะช่วยให้ใบปัดน้ำฝนทำงานได้เองทันทีเมื่อมีฝนตก โดยไม่ต้องเปิดใช้งานเอง

วิธีการทำงานของระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
เซ็นเซอร์จะตรวจจับปริมาณน้ำฝนที่กระทบกระจกหน้ารถด้วยการส่งแสงจาก Emitting Diode แล้วรับแสงที่สะท้อนกลับด้วย Receiving Diode เมื่อมีน้ำฝนบนกระจก แสงจะหักเหแตกต่างจากสภาวะปกติ เซ็นเซอร์จะส่งข้อมูลไปยังกล่องควบคุมเพื่อสั่งการให้ใบปัดน้ำฝนเริ่มทำงาน
ระบบจะปรับระดับการปัดโดยอัตโนมัติให้เหมาะกับปริมาณฝน เช่น:
- ฝนตกหนัก → ปัดเร็ว
- ฝนตกเบา → ปัดช้า

ข้อดีของระบบ Rain Sensor
- ไม่ต้องใช้มือเปิดใบปัดน้ำฝน
- ช่วยรักษาทัศนวิสัยในการขับขี่
- ทำงานได้แม่นยำตามระดับน้ำฝน
- เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางช่วงฝนตก
วิธีใช้งานระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติอย่างถูกต้อง
- หมุนก้านปัดน้ำฝนมาที่โหมด “Auto” หรือ “ตำแหน่งที่ 1” เพื่อเปิดระบบอัตโนมัติ
- หากต้องการปรับความเร็ว ควรใช้ก้านควบคุมที่สามารถปรับได้ตามระดับ
- สำคัญ: ปิดระบบ Rain Sensor เมื่อล้างรถ เพื่อป้องกันการทำงานผิดพลาด
- เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนทุก 6–12 เดือน เพื่อรักษาประสิทธิภาพเซ็นเซอร์

คำแนะนำเพิ่มเติมในการดูแลระบบ Rain Sensor
- อย่าปล่อยให้กระจกหน้าสกปรก เพราะจะทำให้การตรวจจับน้ำฝนผิดเพี้ยน
- หมั่นตรวจสอบใบปัดน้ำฝนว่าไม่มีรอยฉีกหรือแข็งกระด้าง
- หากระบบไม่ทำงาน ควรตรวจสอบสายไฟหรือกล่องควบคุมทันที