การดูแลรักษารถยนต์ในช่วงฤดูฝน: สิ่งที่เจ้าของรถในไทยต้องระวัง
1. ตรวจสอบระบบเบรก
การ ตรวจสอบระบบเบรก อย่างละเอียดในช่วงฤดูฝนเป็นสิ่งที่เจ้าของรถทุกคนไม่ควรมองข้าม เนื่องจากถนนที่เปียกชื้นหรือมีน้ำท่วมขังจะทำให้การ เบรก ยากขึ้น การทำงานของเบรกที่ไม่เต็มประสิทธิภาพอาจทำให้ การหยุดรถ ไม่ทันในกรณีฉุกเฉิน ควรตรวจสอบ ผ้าเบรก และ น้ำมันเบรก ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความเสียหายและเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่
- ตรวจเช็คผ้าเบรก ทุก 6 เดือน
- เปลี่ยนผ้าเบรก เมื่อสึกหรอหรือมีปัญหาที่ทำให้การเบรกไม่เต็มประสิทธิภาพ
2. ตรวจสอบยางรถยนต์
การขับขี่ในช่วงฤดูฝนจำเป็นต้องใช้ ยางรถยนต์ ที่มีสภาพดีและไม่เสื่อมสภาพ หากยางรถยนต์สึกหรอจะทำให้การยึดเกาะถนนลดลง ยางที่มีรอยยึดเกาะน้ำ จะช่วยให้รถไม่เกิดการลื่นไถล การตรวจสอบความลึกของดอกยางและการรักษา แรงดันลมยาง ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ
- ตรวจสอบลึกของดอกยาง ทุกครั้ง
- ตรวจเช็คแรงดันลมยาง เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
3. การตรวจสอบระบบไฟฟ้า
ในช่วงที่มีฝนตกหนัก ระบบไฟฟ้าในรถยนต์มักเป็นส่วนที่ได้รับผลกระทบจาก ความชื้น หรือ น้ำฝน ที่อาจทำให้ ไฟหน้า, ไฟท้าย, หรือ ไฟสัญญาณ ทำงานผิดปกติ ตรวจสอบไฟส่องสว่างต่าง ๆ ทุกดวง และทำการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ในสภาพอากาศฝนตก
- ตรวจสอบไฟส่องสว่าง เช่น ไฟหน้า, ไฟท้าย, และ ไฟสัญญาณ ให้ทำงานปกติ
- ตรวจเช็คระบบไฟฟ้า เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดจากความชื้น
4. การบำรุงรักษาระบบระบายความร้อน
ในช่วงฤดูฝนที่มีน้ำท่วมขัง บางครั้งเครื่องยนต์อาจทำงานหนักขึ้นจากการขับขี่ในพื้นที่น้ำท่วม การ ตรวจสอบระบบระบายความร้อน และ น้ำหล่อเย็น จะช่วยให้เครื่องยนต์ไม่ร้อนเกินไปและทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- ตรวจสอบน้ำหล่อเย็น และระบบระบายความร้อนทุกครั้ง
- เปลี่ยนของเหลวหล่อเย็น ตามระยะเวลาที่ผู้ผลิตแนะนำ
