สีรถยนต์ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่สะท้อนภาพลักษณ์ของเจ้าของรถ ทั้งยังมีหน้าที่ปกป้องพื้นผิวตัวถังจากการกัดกร่อน สนิม และรังสียูวี แต่รู้หรือไม่ว่าในชีวิตประจำวัน มีหลายพฤติกรรมหรือสิ่งรอบตัวที่สามารถทำลายสีรถได้โดยไม่รู้ตัว? บทความนี้จะพาไปดู 5 สิ่งที่ทำร้ายสีรถยนต์ พร้อมวิธีป้องกันก่อนที่สีจะซีด จาง หรือหลุดลอกเร็วกว่าที่ควร!
แสงแดดเป็นศัตรูตัวฉกาจของสีรถ โดยเฉพาะ รังสียูวี (UV) ที่จะทำให้ชั้นแล็กเกอร์เคลือบสีเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น หากคุณจอดรถกลางแจ้งบ่อย โดยเฉพาะรถสีเข้ม เช่น สีดำ หรือสีกรมท่า จะดูซีดจางเร็วกว่าเพราะดูดซับความร้อนได้มากกว่า
วิธีป้องกัน:
ฝุ่นผงที่เกาะบนผิวรถอาจดูเหมือนไม่เป็นอันตราย แต่หากทิ้งไว้นาน เมื่อเจอกับความชื้นหรือฝนตก ฝุ่นเหล่านี้จะกลายเป็น คราบด่าง ซึ่งล้างออกได้ยาก และอาจต้องใช้การขัดสีช่วย
คำเตือน: การใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นโดยตรงอาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนเล็ก ๆ หรือ "รอยขนแมว" ได้
วิธีดูแล:
แม้จะเป็นรอยขีดเล็ก ๆ ก็ตาม แต่อาจเป็นต้นทางของความเสียหายใหญ่ โดยเฉพาะหากสีถลอกจนเห็นเนื้อเหล็กด้านใน เพราะความชื้นสามารถแทรกตัวเข้าไปและทำให้เกิดสนิม ซึ่งอาจขยายวงกว้างหากไม่รีบแก้ไข
วิธีป้องกัน:
ขี้นกมีฤทธิ์เป็นกรดจาก กรดยูริก ซึ่งสามารถกัดผิวเคลือบและชั้นสีได้ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง โดยเฉพาะในสภาพอากาศร้อน ทำให้เกิด รอยด่างหรือคราบถาวร หากปล่อยไว้นาน
วิธีจัดการ:
น้ำมันเบนซินหรือดีเซลที่หกโดนพื้นผิวรถระหว่างเติมน้ำมัน จะทำให้ สีรถด้านลง และดูหมองถาวรหากปล่อยไว้นาน โดยเฉพาะบริเวณใกล้ฝาถังหรือโป่งล้อหลัง
แนวทางแก้ไข:
แม้รถของคุณจะใหม่แค่ไหน แต่หากละเลยรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ สีรถก็อาจหม่นหมองและเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร รู้ก่อนป้องกันก่อน ช่วยให้รถดูใหม่ตลอดเวลาและยังเพิ่มมูลค่าเมื่อต้องขายต่ออีกด้วย
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน 24Carfix ได้ทั้งในระบบ iOS และ Android
2. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ: ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบเพื่อใช้บริการ
3. เรียกช่างซ่อมรถ: เลือกบริการื่ต้องการและระบุปัญหาที่พบเจอ จากนั้นกดเรียกช่าง
4. รอช่างมาถึงที่: ช่างจะมาถึงที่ภายในเวลาอันรวดเร็ว และดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ท่านทันที
ติดตามอัปเดตข่าวสาร 24 Carfix ซ่อมรถถึงที่ 24 ชม.