หลายคนอาจเข้าใจว่าสีรถยนต์มีเพียงชั้นเดียว แต่แท้จริงแล้ว สีรถมีถึง 5 ชั้น โดยแต่ละชั้นมีหน้าที่เฉพาะในการปกป้องตัวรถและเสริมความงามให้สีดูเงางาม ทนทานยิ่งขึ้น หากเข้าใจโครงสร้างเหล่านี้ จะสามารถดูแลรักษาสีรถให้ใหม่อยู่เสมอได้ง่ายขึ้น
เป็นโครงสร้างเหล็กของตัวรถ ซึ่งในรถรุ่นใหม่จะมีการชุบสารกันสนิมด้วยกระแสไฟฟ้า (Electro-Coating) เพื่อป้องกันการผุกร่อน โดยชั้นนี้ถือเป็นฐานสำคัญที่สุดของทุกชั้นสี
มีหน้าที่ ยึดเกาะระหว่างเหล็กกับชั้นสีจริง ทำให้ผิวเรียบเสมอกันและป้องกันสนิม สีรองพื้นมักประกอบด้วยสารเคมีอย่างยูรีเทนหรืออีพอกซี และเป็นตัวช่วยให้ชั้นสีจริงติดแน่นทนนานขึ้น
คือชั้นสีที่เราเห็นด้วยตาเปล่า ประกอบด้วยพอลิเมอร์และเม็ดสีที่สร้างความสวยงาม มีหลายโทนสีให้เลือกตามรหัสเฉพาะของโรงงานผู้ผลิต เช่น สีแดงเพลิง, น้ำเงินเข้ม หรือเทาเมทัลลิก ซึ่งแต่ละสูตรมีความโดดเด่นต่างกัน
ชั้นนี้คือ “เกราะป้องกัน” ของสีรถ เป็นเนื้อใสที่เคลือบทับสีจริงเพื่อเสริมความเงางาม และช่วยป้องกันรอยขีดข่วนจากกรวด หิน ฝุ่น และแสงแดด ทำให้สีรถดูใหม่ได้นานขึ้น
เป็นชั้นที่บางที่สุดและอยู่บนสุดของตัวรถ ชั้นนี้สามารถเพิ่มได้ด้วยการเคลือบแว็กซ์หรือเซรามิก ซึ่งจะช่วยปกป้องสีรถจากสิ่งสกปรก ฝุ่นละออง มูลนก และน้ำฝน ทั้งยังช่วยให้ล้างรถได้ง่ายยิ่งขึ้น
รถยนต์ไม่ได้มีแค่สีสวยเท่านั้น แต่ยังประกอบด้วย ชั้นสีที่ซับซ้อนถึง 5 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นมีบทบาทที่สำคัญในการปกป้องตัวถัง และเพิ่มอายุการใช้งานของสี การเข้าใจชั้นสีรถยนต์จะช่วยให้คุณเลือกการดูแลที่เหมาะสม เช่น การเคลือบแก้ว, การขัดสี, หรือการลงแว็กซ์ ซึ่งจะทำให้รถของคุณดูใหม่อยู่เสมอ
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน 24Carfix ได้ทั้งในระบบ iOS และ Android
2. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ: ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบเพื่อใช้บริการ
3. เรียกช่างซ่อมรถ: เลือกบริการื่ต้องการและระบุปัญหาที่พบเจอ จากนั้นกดเรียกช่าง
4. รอช่างมาถึงที่: ช่างจะมาถึงที่ภายในเวลาอันรวดเร็ว และดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ท่านทันที
ติดตามอัปเดตข่าวสาร 24 Carfix ซ่อมรถถึงที่ 24 ชม.