รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท และแตกต่างกันยังไง

การเข้าใจประเภทของรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เป็นสิ่งสำคัญก่อนการตัดสินใจเลือกใช้ เนื่องจากแต่ละประเภทมีลักษณะการใช้งานและการทำงานที่แตกต่างกัน โดยสามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้:

1. HEV (Hybrid Electric Vehicle) รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด

รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด ใช้การผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์สันดาปที่ใช้พลังงานจากน้ำมัน (เบนซินหรือดีเซล) กับมอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าจะทำงานร่วมกัน ช่วยให้การขับขี่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถเปลี่ยนพลังงานจากการเบรกมาเป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บไว้ใน แบตเตอรี่ และสามารถนำพลังงานนี้มาใช้ขับเคลื่อนรถในช่วงที่ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องยนต์ ดังนั้น รถประเภทนี้จึงช่วยประหยัดน้ำมันและทำให้อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่า รถยนต์สันดาปทั่วไป

ข้อดี:

  • ประหยัดน้ำมัน
  • ช่วยลดมลพิษในบางกรณี

ข้อเสีย:

  • ไม่สามารถขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน 100%
  • ระยะทางในการขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้าค่อนข้างจำกัด

2. PHEV (Plug-in Hybrid Electric Vehicle) รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด

รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด เป็นรถที่พัฒนาจาก HEV โดยสามารถชาร์จไฟจากแหล่งภายนอก (เสียบปลั๊ก) เพื่อเพิ่มพลังงานไฟฟ้าให้กับ แบตเตอรี่ ซึ่งต่างจาก HEV ที่ไม่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จได้ รถประเภทนี้สามารถเลือกใช้พลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า 100% หรือใช้เครื่องยนต์ร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยให้สามารถขับขี่ระยะทางไกลขึ้นและประหยัดน้ำมันมากขึ้น

ข้อดี:

  • มีความยืดหยุ่นในการใช้งานทั้งน้ำมันและไฟฟ้า
  • สามารถขับขี่ระยะทางไกลโดยไม่ต้องกลัวแบตเตอรี่หมดเร็ว

ข้อเสีย:

  • ราคาสูงกว่า HEV
  • ยังต้องเติมน้ำมันในบางกรณี

3. BEV (Battery Electric Vehicle) รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่

รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (BEV) ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน 100% โดยไม่มีเครื่องยนต์สันดาปเลย ทำให้รถประเภทนี้ไม่ปล่อยมลพิษจากท่อไอเสียหรือก๊าซ CO2 จึงถือเป็น Zero Emission Vehicle ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ข้อดี:

  • ไม่มีมลพิษหรือ CO2 จากการขับขี่
  • ค่าบำรุงรักษาต่ำ เนื่องจากไม่มีเครื่องยนต์
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเชื้อเพลิง

ข้อเสีย:

  • ระยะทางที่วิ่งได้จำกัดตามความจุของแบตเตอรี่
  • ต้องใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่

4. FCEV (Fuel Cell Vehicle) รถยนต์ไฟฟ้าเซลเชื้อเพลิง

รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) ใช้เทคโนโลยี เซลล์เชื้อเพลิง เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้าสำหรับขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้า โดยการใช้ ไฮโดรเจน เป็นเชื้อเพลิง ซึ่งสามารถเติมไฮโดรเจนได้ที่สถานีเติมที่มีบริการ การปล่อยของ FCEV คือ น้ำ ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการเปลี่ยนพลังงานไฮโดรเจน

ข้อดี:

  • ไม่มีมลพิษจากการขับขี่
  • การเติมไฮโดรเจนเร็วเหมือนเติมน้ำมัน

ข้อเสีย:

  • สถานีเติมไฮโดรเจนยังไม่แพร่หลาย
  • ราคาของรถและเทคโนโลยีสูง



บริการซ่อมรถนอกสถานที่24ชั่วโมง

ติดต่อโทร : 061-4152978

Line ID :@24carfix

วิธีการใช้บริการ 24Carfix

1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน 24Carfix ได้ทั้งในระบบ iOS และ Android

2. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ: ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบเพื่อใช้บริการ

3. เรียกช่างซ่อมรถ: เลือกบริการื่ต้องการและระบุปัญหาที่พบเจอ จากนั้นกดเรียกช่าง

4. รอช่างมาถึงที่: ช่างจะมาถึงที่ภายในเวลาอันรวดเร็ว และดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ท่านทันที

ติดตามอัปเดตข่าวสาร 24 Carfix ซ่อมรถถึงที่ 24 ชม.

เรียกช่างด่วน 24 ชม.

หน้าแรกช่างซ่อมรถยนต์