กระจกรถร้าวควรซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ดี
กระจกหน้ารถยนต์ร้าว:
ซ่อมหรือเปลี่ยนดี? คำแนะนำเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่
กระจกหน้ารถยนต์มีหน้าที่ปกป้องผู้ขับขี่จากสิ่งต่าง ๆ เช่น ลม, แมลง, เศษหิน, และเศษดิน ที่อาจปะทะขณะขับขี่ ซึ่งหากเกิดการร้าวที่กระจก ควรทำการซ่อมหรือเปลี่ยนตามความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อรักษาความปลอดภัยของคุณและผู้โดยสาร
หากรอยร้าวไม่เกิน 3 นิ้ว และไม่ได้อยู่ในพื้นที่มุมมองตรงของผู้ขับขี่ (เ ช่น ด้านขอบกระจก), คุณสามารถ ซ่อมแซมกระจก ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่
ข้อดี
- ค่าใช้จ่ายต่ำ: การซ่อมจะประหยัดกว่าการเปลี่ยนกระจกทั้งบาน
- รวดเร็ว: กระบวนการซ่อมใช้เวลาน้อย
- กระจกเดิม: รักษากระจกจากโรงงานไว้ ซึ่งสำคัญสำหรับรถรุ่นเก่าที่อาจหากระจกใหม่ได้ยาก
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะกับความเสียหายรุนแรง: การซ่อมอาจไม่สามารถกู้กระจกที่เสียหายมากได้
- อาจมีร่องรอย: การซ่อมแซมอาจทำให้กระจกมีร่องรอยที่มองเห็นได้

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนกระจกหน้ารถ?
หากกระจกร้าวจนรอยร้าวกระจายไปทั่วกระจกหรือมีความเสียหายมาก การ เปลี่ยนกระจก ใหม่ถือเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุด
ข้อดี
- คุณภาพเหมือนเดิม: กระจกใหม่มีความแข็งแรงและปลอดภัยเทียบเท่ากับกระจกเดิม
- ปลอดภัย: กระจกใหม่มีมาตรฐานการติดตั้งที่ดี
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายสูง: การเปลี่ยนกระจกใหม่มักมีราคาสูงกว่าการซ่อม
- ใช้เวลานาน: การเปลี่ยนกระจกต้องใช้เวลามากกว่า
- อาจเสียอุปกรณ์เดิม: ในบางรุ่นอาจทำให้สูญเสียอุปกรณ์ดั้งเดิมที่ติดตั้งจากโรงงาน ซึ่งส่งผลต่อมูลค่าการขายต่อ
วิธีดูแลกระจกหลังการเปลี่ยน
หลังจากเปลี่ยนกระจกหน้ารถยนต์ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังนี้เพื่อให้กระจกติดตั้งได้อย่างปลอดภัยและยืดอายุการใช้งาน:
- รอให้กาวแห้งสนิท: อย่าใช้รถทันทีหลังการติดตั้ง ควรรอให้กาวแห้ง 24 ชั่วโมง
- เลี่ยงการล้างรถ: หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องล้างรถหรือเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- ลดกระจกหน้าต่างลงเล็กน้อย: เพื่อลดแรงดันภายในรถในช่วง 24 ชั่วโมงแรก
- ทิ้งเทปยึดไว้: ปล่อยเทปยึดกระจกไว้ในช่วง 24 ชั่วโมงเพื่อให้กาวยึดติดดีขึ้น
คำแนะนำเพิ่มเติม
หากกระจกรถร้าวในรอยเล็ก ๆ หรือรอยที่ไม่ลุกลาม, ชุดซ่อมกระจกรถยนต์ อาจเหมาะสำหรับการทำเองในบางกรณี แต่หากไม่มั่นใจหรือรอยร้าวมีความยาว ควร ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อซ่อมหรือเปลี่ยนกระจกอย่างถูกต้อง