เคลือบแก้วคืออะไร มีประโยชน์อย่างไร

การดูแลสีรถให้เงางามและดูใหม่อยู่เสมอ ไม่ได้มีแค่การแว็กซ์เท่านั้น แต่ยังมีนวัตกรรมที่เรียกว่า “การเคลือบแก้ว” ซึ่งเป็นวิธีการดูแลรถยอดนิยมที่ให้ทั้งความเงาและการปกป้องขั้นสูง วันนี้เราจะมาทำความรู้จักการเคลือบแก้วอย่างละเอียด ทั้งประโยชน์ ข้อดี และวิธีดูแลหลังเคลือบ

เคลือบแก้ว คืออะไร?

เคลือบแก้ว (Glass Coating หรือ Ceramic Coating) คือการเคลือบผิวสีรถด้วยน้ำยาที่มีส่วนประกอบหลักคือ ซิลิกาไดออกไซด์ (SiO₂) ซึ่งเป็นองค์ประกอบเดียวกับแก้ว เมื่อเคลือบลงบนพื้นผิวรถแล้ว จะเกิดฟิล์มบาง ๆ ที่มีลักษณะคล้ายผลึกแก้วใส ช่วยป้องกันสีรถจากแสงแดด รอยขีดข่วน คราบน้ำ สิ่งสกปรก และสารเคมี

น้ำไม่เกาะสีรถใช่ไหม?

เมื่อเคลือบแก้วแล้ว น้ำจะไม่เกาะที่สีรถ และสิ่งสกปรกจะเกาะสีรถได้ยากขึ้น (Hydrophobic Effect) วิธีการสังเกตคุณภาพของการเคลือบแก้วคือการดูหยดน้ำบนชั้นสีรถ ซึ่งจะมีลักษณะกลมนูน เหมือนหยดน้ำกลิ้งบนใบบอน สิ่งสำคัญที่สุดคือการติดทนของเคลือบแก้ว โดยน้ำจะไม่เกาะสีรถในระดับ 6 เดือนขึ้นไป อย่างไรก็ตามการติดทนของเคลือบแก้วขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษารถ

เคลือบแก้ว มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?

  • ให้ความเงาใสที่ติดทนยาวนาน กว่าการเคลือบสีทั่วไป (Permanent Glossy)
  • ให้ความปกป้องจากเคมี ต่าง ๆ ที่อาจทำให้สีรถเกิดความเสียหาย เช่น กรดหรือด่าง (Chemical Resistant)
  • ป้องกันรอยยาก เมื่อเปรียบเทียบกับผิวแลคเกอร์เดิมจากโรงงาน
  • ปกป้องผิวรถจาก UV
  • เปื้อนยากและล้างง่าย (Self Cleaning)
  • ลดการเกาะตัวของคราบน้ำ และสิ่งสกปรกบนผิวรถ เมื่อรถวิ่งทำความเร็วจะหลุดออกทันที
  • การยึดเกาะของชั้นเคลือบ ที่ให้ความเงาและปกป้องได้ยาวนาน ราว 2-3 ปี



จุดเด่นของการเคลือบแก้ว

  • เงางามเหมือนใหม่: ให้ความเงาลึกแบบกระจก สะท้อนแสงได้ดี ทำให้รถดูใหม่ตลอดเวลา
  • น้ำไม่เกาะ (Hydrophobic Effect): หยดน้ำจะกลิ้งออกจากผิวรถ ลดโอกาสเกิดคราบน้ำหรือคราบสนิม
  • ทนสารเคมี: ป้องกันกรดจากขี้นก ยางไม้ และน้ำฝนกรด
  • ป้องกันรังสี UV: ลดการซีดของสีรถจากแดดจ้า
  • ล้างรถง่าย: คราบฝุ่น สิ่งสกปรกติดรถได้น้อย ทำความสะอาดไว
  • ทนทานนานหลายปี: ถ้าดูแลดี สามารถอยู่ได้นานถึง 2–3 ปี
  • ป้องกันรอยขีดข่วนเล็ก ๆ: แม้ไม่เท่าแผ่นฟิล์ม PPF แต่ช่วยลดรอยขนแมวได้ดี

วิธีสังเกตว่าเคลือบแก้วดีจริงหรือไม่

  • หยดน้ำกลมและกลิ้งง่ายเหมือนบนใบบอน
  • ผิวรถลื่นมากเวลาลูบ
  • ฝุ่นเกาะน้อย ล้างน้ำเปล่าก็ออก
  • ความเงาวาวไม่หายไปแม้ล้างรถหลายครั้ง

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจเคลือบแก้ว

  • ต้องเตรียมผิวรถให้สะอาดก่อนเคลือบ เช่น ขัดสีหรือลบรอยเดิม
  • ใช้เวลาเคลือบหลายชั่วโมงถึง 1 วัน
  • ราคาสูงกว่าการแว็กซ์ทั่วไป
  • หากใช้ผลิตภัณฑ์ราคาถูกหรือไม่มีมาตรฐาน อาจไม่ติดทนจริง

วิธีดูแลหลังจากเคลือบแก้วแล้ว

  1. ล้างรถเป็นประจำ ด้วยน้ำเปล่าและแชมพูสูตรเฉพาะสำหรับรถเคลือบแก้ว
  2. หลีกเลี่ยงการขัดสี: ห้ามใช้เครื่องขัดรอบสูงหรือน้ำยาขัดที่มีส่วนผสมของผงขัด
  3. เติมเคลือบเสริม: ทุก 6 เดือน – 1 ปี เพื่อรักษาชั้นเคลือบ
  4. จอดในที่ร่ม: แม้เคลือบแก้วจะกัน UV ได้ แต่หากเลี่ยงแดดได้ก็ยิ่งช่วยยืดอายุการใช้งาน

สรุป

หากคุณต้องการปกป้องสีรถระยะยาวให้ดูใหม่ เงางาม และลดเวลาทำความสะอาด “การเคลือบแก้ว” คือคำตอบที่คุ้มค่าในระยะยาว แม้มีต้นทุนที่สูงกว่า แต่ผลลัพธ์ที่ได้ทั้งในด้านความสวยงามและการปกป้อง ก็นับว่าคุ้มค่าสำหรับรถคู่ใจของคุณ

บริการซ่อมรถนอกสถานที่24ชั่วโมง

ติดต่อโทร : 061-4152978

Line ID :@24carfix

วิธีการใช้บริการ 24Carfix

1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน 24Carfix ได้ทั้งในระบบ iOS และ Android

2. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ: ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบเพื่อใช้บริการ

3. เรียกช่างซ่อมรถ: เลือกบริการื่ต้องการและระบุปัญหาที่พบเจอ จากนั้นกดเรียกช่าง

4. รอช่างมาถึงที่: ช่างจะมาถึงที่ภายในเวลาอันรวดเร็ว และดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ท่านทันที

ติดตามอัปเดตข่าวสาร 24 Carfix ซ่อมรถถึงที่ 24 ชม.

เรียกช่างด่วน 24 ชม.

หน้าแรกช่างซ่อมรถยนต์