เครื่องยนต์ที่ใช้ระบบแก๊สนั้นจะมีอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ที่ใช้ระบบน้ำมันเป็นตัวเผาไหม้ ดังนั้น ควรตรวจเช็คระบบหล่อเย็นว่าชำรุด รั่วซึม ทำงานปกติหรือไม่
ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องสำหรับเครื่องยนต์ใช้แก๊สโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีคุณสมบัติหล่อลื่นและระบายความร้อนได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องปกติ
ในระบบทางเดินแก๊ส ด้วยน้ำสบู่ หรือ Gas detector
ควรมีระดับน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ในถังอย่างน้อย 1/4 ถัง เพื่อมีน้ำมันสำรองกรณีก๊าซหมดถังหรือระบบจ่ายก๊าซขัดข้อง นอกจากนี้ ยังช่วยลดการเกิดสนิมในถังน้ำมัน และป้องกันปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเสียหาย ในกรณีที่ระบบก๊าซนั้นไม่ได้ตัดการทำงานของปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง
ควรสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยน้ำมัน เพื่อให้สตาร์ทง่าย ลดอาการสั่นขณะสตาร์ทและหล่อเลี้ยงระบบเชื้อเพลิง ซึ่งโดยปกติ ช่างเทคนิคจะตั้งค่ารถยนต์ที่ติดแก๊สให้สตาร์ทเครื่องยนต์ทุกครั้งด้วยน้ำมันอยู่แล้ว
โดนทางทฤษฎีแล้ว ควรสลับใช้น้ำมันบ้าง ระยะทางประมาณ 1-2 กิโลเมตร โดยเฉพาะก่อนดับเครื่องยนต์ เพื่อให้น้ำมันเข้าสู่ระบบต่างๆ เช่น หัวฉีดน้ำมัน, กระบอกสูบ, ห้องเผาไหม้ ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ห้องเผาไหม้แห้งจนเกินไป
การดูแลรถติดแก๊สในช่วงหน้าร้อนควรรวมถึงการตรวจเช็คและปรับจูนตามระยะ เช่น การตรวจเช็กสภาพถังแก๊สและระบบท่อนำแก๊สเพื่อป้องกันการรั่วซึม ปรับตั้งระบบเชื้อเพลิงให้เหมาะสมเพื่อลดการสิ้นเปลือง และตรวจสอบระบบระบายความร้อนเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอแนะนำให้เข้าศูนย์บริการเพื่อการตรวจเช็คอย่างละเอียดและการบำรุงรักษา
1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน 24Carfix ได้ทั้งในระบบ iOS และ Android
2. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ: ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบเพื่อใช้บริการ
3. เรียกช่างซ่อมรถ: เลือกบริการื่ต้องการและระบุปัญหาที่พบเจอ จากนั้นกดเรียกช่าง
4. รอช่างมาถึงที่: ช่างจะมาถึงที่ภายในเวลาอันรวดเร็ว และดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ท่านทันที
ติดตามอัปเดตข่าวสาร 24 Carfix ซ่อมรถถึงที่ 24 ชม.
#ช่วงล่าง#เครื่องยนต์#รถเสีย#อู่รถยนต์ใกล้ฉัน#ช่วงล่างรถยนต์#โช้คอัพ#ท่อน้ำมันรั่ว#น้ำมันไม่ขึ้น#หม้อน้ำ#เปลี่ยนหัวฉีด#ซ่อมระบบไฟ#ซ่อมรถนอกสถานที่#คลัชหมด#คลัชลื่น#คลัทช์จม#โช้คเสื่อม#สายพานขาด#ช่างซ่อมรถที่บ้าน#ช่างซ่อมรถข้างทาง#เบรครั่ว#เบรคติด