6 นิสัยการขับรถที่ทำให้รถพังเร็ว

6 นิสัยการขับรถที่ทำให้รถพังเร็ว

1. เร่งเครื่องแรง ๆ ทันทีที่สตาร์ทรถ

เวลาที่เราดับเครื่อง น้ำมันเครื่อง จะไหลไปรวมกันที่ก้นอ่าง เมื่อมาสตาร์ทรถในตอนเช้าของวันถัดไป จึงไม่ควรเร่งเครื่องแบบรุนแรงทันที ควรทิ้งเวลาเพื่อให้น้ำมันเครื่องขึ้นไปหล่อลื่นตามชิ้นส่วนต่าง ๆ อย่างทั่วถึง การเร่งเครื่องและออกตัวรุนแรงทำให้ ชิ้นส่วนรถยนต์ สึกหรอกว่าปกติ

2. บรรทุกของหนักเกินกำหนดบ่อย

การใช้รถในการบรรทุกสัมภาระหนัก ๆ ส่งผลให้ เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และระบบกันสะเทือน รวมถึง ระบบเบรก ทำงานหนักขึ้น จึงควรบรรทุกน้ำหนักให้พอดีกับประเภทรถยนต์ ที่คุณใช้

3. มองข้ามระบบสัญญาณเตือนบนหน้าปัดของรถ

สัญญาณเป็นสิ่งสำคัญมาก เช่น สัญญาณไฟสีแดง สีเหลือง ถ้ามีไฟขึ้นมาควรตรวจสอบสาเหตุและแก้ไขทันที เพราะอาจจะเป็นการเตือนให้รู้ว่าระบบต่างๆ ของ รถยนต์ อาจมีปัญหาเกิดขึ้น

4. ลืมปลดเบรกมือ

ยิ่งสำหรับนักขับมือใหม่อาจพบเจอได้บ่อยครั้ง ควรฝึกลำดับขั้นตอนก่อนการออกรถอย่างถูกต้องให้เคยชิน เพราะถ้าหากลืมปลด เบรกมือ จะส่งผลให้เบรกไหม้ นอกจากนี้ส่งผลให้ระบบส่งกำลังต้องทำงานหนักขึ้นอีกด้วย

5. หมุนพวงมาลัยขณะรถอยู่นิ่ง

เพราะขณะที่รถจอดนิ่งอยู่กับที่แรงเสียดทานระหว่างล้อรถกับพื้นถนนมีจำนวนมาก จึงควรหลีกเลี่ยงการหมุน พวงมาลัย ขณะรถหยุดนิ่งหรือการจอดรถในช่องแคบ ๆ ที่ต้องโยกกันหลายรอบ เพื่อลดการสึกหรอของ ยางรถยนต์

6. ไม่ชะลอความเร็วเวลาขับผ่านหลังเต่า

หลังเต่า (Speed Bumps) ตัวช่วยลดความเร็วเวลาขับตามถนนหมู่บ้าน จะทำให้ระบบช่วงล่าง เช่น โช้คอัพ สปริง ลูกหมาก ปีกนก ฯลฯ เกิดการกระแทกแรงเกินไป พอบ่อย ๆ เข้า ช่วงล่างของรถจะพังได้

หน้าแรกช่างซ่อมรถยนต์