ไฟสัญญาณเตือน และสัญลักษณ์ที่รถสำคัญแค่ไหน (1)

ไฟสัญญาณเตือนบนหน้าปัดรถยนต์ คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงปัญหาหรือสถานะของระบบต่าง ๆ ภายในรถ ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก เครื่องยนต์ แบตเตอรี่ หรือถุงลมนิรภัย การเข้าใจความหมายของไฟเตือนเหล่านี้จะช่วยให้คุณวินิจฉัยและแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่อย่างยั่งยืน

คุณคงเคยเห็นไฟสัญญาณเตือนบนแผงหน้าปัดของคนขับในทุกครั้งที่สตาร์ทรถ แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่บางสัญญาณไฟเตือนจะปรากฏขึ้นโดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งหากรู้ความหมายของสัญญาณไฟเหล่านี้ก็จะช่วยให้คุณสามารถระบุปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการขับขี่ของคุณได้ ในบทความทั้งสามนี้เราได้นำเสนอเกี่ยวกับแผงหน้าปัดและไฟสัญญาณเตือนยอดนิยม 30 รายการที่คุณอาจพบได้ในรถของคุณ ในส่วนของบทความแรกนี้ได้นำเสนอเกี่ยวกับสัญลักษณ์พื้นฐานที่สำคัญที่สุดของรถยนต์ส่วนใหญ่ในปัจจุบัน มาดูกันเลย

สัญญาณเตือนเบรก (Brake warning indicator)

สิ่งนี้มักเกิดขึ้นเมื่อคุณใช้เบรกมือ หากไม่ได้กำลังใช้งานและไฟยังคงขึ้นมาในระหว่างการขับขี่ให้ดึงไปด้านข้างอย่างปลอดภัย สัญญาณไฟอาจหมายถึงหนึ่งในไม่กี่สิ่งนี้ เช่น ระดับน้ำมันเบรกต่ำ, ระบบ ABS มีปัญหา,ผ้าเบรกสึกหรือไฟเบรกหนึ่งหรือสองดวงดับ

ไฟเตือนระบบเครื่องยนต์ (Check engine light)

ปรากฏเมื่อดึงเบรกมือ หรืออาจเกิดจากน้ำมันเบรกต่ำ ระบบเบรกมีปัญหา หรือไฟเบรกขาด ควรหยุดรถและตรวจสอบทันที

อุณหภูมิน้ำหล่อเย็น (Coolant temperature)

แสดงถึงความผิดปกติของระบบเครื่องยนต์ เช่น ความร้อนสูงเกินไป แรงดันน้ำมันต่ำ หรือฝาแก๊สหลวม ควรรีบนำรถตรวจเช็กโดยผู้เชี่ยวชาญ

ปัญหาเกี่ยวกับระบบแบตเตอรี่ (Battery problems)

แสดงว่าเครื่องยนต์ร้อนเกินไป อาจมีน้ำหล่อเย็นต่ำหรือระบบหล่อเย็นผิดปกติ ควรหยุดรถ เปิดฝากระโปรง และปล่อยให้เครื่องเย็นก่อนตรวจสอบ

ไฟเตือนแรงดันน้ำมัน (Oil pressure warning)

ชี้ว่าระบบชาร์จไฟผิดปกติ อาจเกิดจากแบตเตอรี่เสื่อม หรือไดชาร์จเสีย ควรรีบนำรถเข้าตรวจสอบก่อนแบตหมด

สัญญาณเตือนแรงดันลมยาง (Tire pressure warning)

แสดงว่าแรงดันน้ำมันต่ำ ซึ่งอาจเกิดจากน้ำมันเครื่องน้อยหรือปั๊มน้ำมันเครื่องเสีย ต้องหยุดรถทันทีและเช็กระดับน้ำมัน

ไฟแสดงสถานะไฟสูง (High beam indicator)

ไฟแสดงสถานะไฟสูง (High beam indicator)

หากติดตั้งระบบ TPMS จะปรากฏเมื่อแรงดันลมยางต่ำกว่ากำหนด ควรเติมลมและตรวจสอบรอยรั่ว

ไฟตัดหมอกด้านหน้าและหลัง (Front and rear fog lamps)

มักจะถูกสับสนกับไฟแสดงสถานะไฟต่ำ ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการแยกสัญญาณไฟทั้งสองคือการใช้เส้นหยักเพื่อบ่งบอกถึงแสงที่ส่องผ่านหมอก และวิธีที่ดีที่สุดในการแยกไฟตัดหมอกหน้าและหลังคือการใช้เส้นสัญลักษณ์ หากเส้นหยักอยู่ทางด้านซ้ายของสัญลักษณ์แสดงว่าเป็นไฟตัดหมอกหน้า หากเส้นหยักอยู่ทางขวาแสดงว่าเป็นไฟตัดหมอกหลังนั่นเอง

ไฟแสดงสถานะถุงลมนิรภัย (Airbag indicator)

สัญลักษณ์นี้อาจแสดงขึ้นพร้อมกับคำว่า “ถุงลมนิรภัย” หรือ “SRS” ซึ่งย่อมาจาก “ระบบยับยั้งส่วนเสริม หรือ Supplemental Restraint System” หากสัญญาณไฟนี้เตือนขึ้นมาอาจบ่งบอกถึงหนึ่งในปัญหาเกี่ยวกับถุงลมนิรภัย รีบนำไปตรวจสอบที่ศูนย์บริการใกล้บ้านคุณจะดีกว่านะ

สัญญาณเตือนปิดการควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (Vehicle stability control off indicator)

แม้ว่าระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวนี้อาจมีอีกหลายชื่อเช่น Electronic Stability Program (ESP), Dynamic Stability Control (DSC) และอื่น ๆ แต่ก็แสดงให้เห็นว่าระบบได้ถูกปิดการใช้งานแล้ว ซึ่งระบบนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่รักษาการควบคุมรถเมื่อตรวจพบการสูญเสียการควบคุมนั่นเอง

หน้าแรกช่างซ่อมรถยนต์