เลือกแบตเตอรี่ยังไงให้เหมาะกับรถของเรา

การเลือก แบตเตอรี่รถยนต์ ที่เหมาะสมสำหรับรถยนต์ของคุณนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากแบตเตอรี่เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถยนต์สามารถสตาร์ทและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม, ด้วยแบตเตอรี่ที่มีหลากหลายประเภทและหลายยี่ห้อในท้องตลาด อาจทำให้ผู้ใช้รถบางคนสับสนในการเลือกซื้อ เพื่อให้การเลือกแบตเตอรี่เป็นเรื่องง่ายขึ้น เราจะมาอธิบายประเภทของแบตเตอรี่, คำแนะนำในการเลือกแบตเตอรี่, และอาการที่บ่งบอกว่าแบตเตอรี่ของคุณเริ่มเสื่อมสภาพ

ประเภทของแบตเตอรี่รถยนต์

1. แบตเตอรี่แบบแห้ง (Sealed Maintenance Free หรือ SMF)

• แบตเตอรี่แบบแห้ง เป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน โดยจะสังเกตง่าย ๆ ว่าจะไม่มีรูสำหรับเติมน้ำกลั่น ซึ่งต่างจากแบตเตอรี่แบบน้ำ ภายในของแบตเตอรี่แบบแห้งมีของเหลวสำหรับการทำปฏิกิริยาและถูกเติมน้ำกรดและชาร์จไฟมาให้เรียบร้อยจากโรงงาน
• ข้อดี: ง่ายต่อการดูแลรักษา เนื่องจากไม่ต้องเติมน้ำกลั่น
• ข้อเสีย: ราคาสูงกว่าประเภทอื่น และอายุการใช้งานอาจสั้นถ้าไม่ได้ดูแลอย่างดี

2. แบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง (Maintenance Free หรือ MF)

• แบตเตอรี่ประเภทนี้คล้ายกับแบตเตอรี่แบบแห้ง แต่จะมีรูสำหรับเติมน้ำกลั่น ซึ่งแบตเตอรี่กึ่งแห้งนั้นยังต้องการการดูแลอยู่แต่มีระยะเวลาการดูแลน้อยกว่าการดูแลแบตเตอรี่แบบน้ำ
• ข้อดี: ค่าบำรุงรักษาต่ำ ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นบ่อยเหมือนแบตเตอรี่แบบน้ำ
• ข้อเสีย: ยังต้องตรวจสอบระดับน้ำกลั่น 1-2 ครั้งต่อปี

3. แบตเตอรี่แบบน้ำ (Conventional Battery)

แบตเตอรี่แบบน้ำเป็นแบตเตอรี่ประเภทที่มีการเติมน้ำกลั่นตลอดอายุการใช้งาน เพราะแบตเตอรี่ประเภทนี้มีการสูญเสียน้ำได้มาก หากไม่เติมน้ำกลั่นตามเวลาที่กำหนดหรือปล่อยให้น้ำกรดระเหยจนหมดจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพและอายุการใช้งานลดลง

ข้อดี: ราคาถูก

ข้อเสีย: ต้องคอยเติมน้ำกลั่นอย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาอายุการใช้งาน

4. แบตเตอรี่แบบไฮบริด (Hybrid Battery)

แบตเตอรี่แบบไฮบริดเป็นแบตเตอรี่ที่ผสมผสานระหว่างแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้งและแบตเตอรี่แบบน้ำ โดยมีคุณสมบัติการใช้ไฟที่สูงมาก มีขนาดใหญ่และมักต้องการการเติมน้ำกลั่นประมาณ 6-9 เดือนต่อครั้ง

ข้อดี: สามารถใช้งานได้ในสถานการณ์ที่ต้องการพลังงานสูง

ข้อเสีย: มีการบำรุงรักษาสูงและมักใช้ในรถยนต์รุ่นพิเศษ

ควรเลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะกับรถยนต์อย่างไร ?

1. ควรเลือกแบตเตอรี่ที่ได้รับมาตรฐานหรือเป็นยี่ห้อที่มีชื่อเสียง

2. ถ้าเป็นไปได้ควรเลือกแบตเตอรี่ที่เพิ่งผลิต เพราะบางทีการใช้แบตเตอรี่ที่ค้าง Stock อาจทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานลดน้อยลงและเสื่อมสภาพไวกว่าปกติ

3. ควรซื้อแบตเตอรี่ให้เหมือนกับของเดิมที่ติดมากับรถยนต์ เช่น ขนาดของแบตเตอรี่ แอมแปร์ต้องเท่ากันหรือมากกว่าที่เคยติดมากับตัวรถ

สรุป

การเลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับรถยนต์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยยืดอายุการใช้งานและลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ควรเลือกแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับการใช้งานประเภทของรถ และจำเป็นต้องมีการตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เป็นประจำ เพื่อให้รถของคุณใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

บริการซ่อมรถนอกสถานที่24ชั่วโมง

ติดต่อโทร : 061-4152978

Line ID :@24carfix

วิธีการใช้บริการ 24Carfix

1. ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน: สามารถดาวน์โหลด แอปพลิเคชัน 24Carfix ได้ทั้งในระบบ iOS และ Android

2. ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบ: ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบเพื่อใช้บริการ

3. เรียกช่างซ่อมรถ: เลือกบริการื่ต้องการและระบุปัญหาที่พบเจอ จากนั้นกดเรียกช่าง

4. รอช่างมาถึงที่: ช่างจะมาถึงที่ภายในเวลาอันรวดเร็ว และดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้ท่านทันที

ติดตามอัปเดตข่าวสาร 24 Carfix ซ่อมรถถึงที่ 24 ชม.

เรียกช่างด่วน 24 ชม.