ที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา คืออะไร? ทำงานอย่างไร? ใช้งานยังไงให้ปลอดภัย
ระบบที่ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา หรือที่เรียกว่า Intermittent Wiper System เป็นฟังก์ชันเสริมที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ โดยเฉพาะในวันที่มีฝนตกปรอยๆ หรือตกเบาๆ ซึ่งการปัดต่อเนื่องอาจไม่จำเป็น ระบบนี้ช่วยให้ผู้ขับสามารถปรับระดับความถี่ในการปัดได้ตามปริมาณน้ำฝน
โหมดต่าง ๆ ของก้านสวิตช์ปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา
1. MIST (หมอก)
- ใช้เมื่อมีฝนหรือหมอกบาง ๆ
- หากดันก้านค้างไว้จะปัดอย่างต่อเนื่อง หากปล่อยจะปัดเพียงหนึ่งครั้ง
2. INT (Intermittent – หน่วงเวลา)
- ปัดแบบเว้นช่วง มีให้เลือกหลายระดับความถี่ เช่น ทุก ๆ 2-5 วินาที
- เหมาะกับฝนตกเบา ไม่จำเป็นต้องปัดตลอดเวลา
3. LO (Low Speed)
- ปัดน้ำฝนต่อเนื่องด้วยความเร็วต่ำ
- เหมาะกับฝนตกปานกลาง
4. HI (High Speed)
- ปัดน้ำฝนต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง
- เหมาะกับฝนตกหนักหรือขับขี่ความเร็วสูง
5. HI (High Speed)
- ปัดน้ำฝนต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง
- เหมาะกับฝนตกหนักหรือขับขี่ความเร็วสูง
จุดเด่นของระบบปัดน้ำฝนแบบหน่วงเวลา
- ยืดอายุการใช้งานของยางปัดน้ำฝน
- ปรับตามสภาพอากาศได้เหมาะสม
- ลดความรำคาญจากการปัดถี่เกินไปในฝนเบา
- เพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ช่วงฝนตก
เคล็ดลับในการใช้งานระบบปัดน้ำฝนให้มีประสิทธิภาพ
- ตรวจสอบสภาพใบปัดน้ำฝนทุก 6 เดือน
- ใช้น้ำยาฉีดกระจกช่วยลดแรงเสียดทาน
- หลีกเลี่ยงการใช้ใบปัดน้ำฝนตอนกระจกแห้ง
- เลือกระดับการปัดที่เหมาะสมกับปริมาณฝน
- ไม่ควรเปิดระบบหน่วงเวลาตอนล้างรถ
เมื่อใดควรเปลี่ยนใบปัดน้ำฝน?
- มีเสียงดังหรือฝืดขณะปัด
- ปัดแล้วกระจกไม่สะอาด
- ขอบยางหลุด ฉีก หรือแข็งกรอบ
